BACK

จาร์เค็นบุกธุรกิจบริการอสังหาฯ ครบวงจร

จาร์เค็น ขยายไลน์รับบริการอสังหาฯ ครบวงจร ตั้งแต่ออกแบบ ตกแต่ง ก่อสร้าง ประชาสัมพันธ์ สร้างแบรนด์ หวังกระจายความเสี่ยง ตั้งเป้าปี 58 โต 15% เผยปี 57 ที่อยู่อาศัยชะลอตัว แต่คอมมูนิตีมอลล์ โตก้าวกระโดด งานออกแบบก่อสร้างทะลัก

ดร.กุลเดช สินธวณรงค์ กรรมการผู้จัดการกลุ่มบริษัท จาร์เค็น ( JARKEN ) จำกัด เปิดเผยว่า จากความสำเร็จในการขยายธุรกิจบริการด้านอสังหาริมทรัพย์ให้มีความครอบคลุม ครบวงจร ส่งผลให้ผลการดำเนินงานในปีที่ผ่านมาของบริษัทเติบโตอย่างก้าวกระโดด โดยมีรายได้ราว 300 ล้านบาท จากเดิมที่ดำเนินธุรกิจออกแบบสถาปัตยกรรมภายในเพียงอย่างเดียว โดยปัจจุบัน บริษัทให้บริการครอบคลุมงานออกตกแต่ง ก่อสร้าง ตลอดจนเป็นที่ปรึกษาด้านการพัฒนาแบรนด์สินค้า และการประชาสัมพันธ์ ผ่านบริษัทและบริษัทในเครืออีก 3 แห่ง ได้แก่ บริษัท ออกแบบ พาย จำกัด ดูแลด้านการออกแบบเจาะกลุ่มผู้บริโภคยุคใหม่, บริษัท ไทยเกอร์ลิลลี่ คอมมิวนิเคชั่น จำกัด ดูแลภาพลักษณ์และที่ปรึกษาด้านการประชาสัมพันธ์และการตลาด และบริษัท เจ.เค.บิวเดอร์ส จำกัด ดูแลด้านรับเหมาก่อสร้าง

สำหรับทิศทางของตลาดอสังหาริมทรัพย์ในปีนี้เชื่อว่าจะเติบโตขึ้นตาม การเติบโตของจีดีพี โดยมีปัจจัยบวกสำคัญจากนโยบายการลงทุนภาครัฐ การเร่งเบิกจ่ายงบประมาณ ซึ่งปีนี้บริษัทตั้งเป้าการเติบโตไว้ที่ 15% จากปีที่ผ่านมา โดยปัจจุบันบริษัทมียอดขายรอรับรู้รายได้ตามเป้ายอดขายที่วางเอาไว้ในปีนี้ แล้ว แต่เพื่อป้องกันความเสี่ยงจากกรณีที่ลูกค้าชะลอก่อสร้าง หรือส่งมอบโครงการออกไป จึงเดินหน้ารุกตลาดอย่างต่อเนื่อง โดยจะเน้นการรุกตลาดอย่างครอบคลุม กระจายทั้งใน และต่างจงหวัด

ในปีที่ผ่านมา แม้ว่าไทยจะประสบปัญหาการเมือง และเศรษฐกิจ จนทำให้ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ได้รับผลกระทบ โดยเฉพาะตลาดที่อยู่อาศัย แต่อย่างไรก็ตาม ตลาดค้าปลีก คอมมูนิตีมอลล์ยังมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง เพราะปัจจุบันการทำคอมมูนิตีมอลล์ เจ้าของที่ดินสามารถดำเนินการเองได้โดยไม่ต้องจ้างผู้อื่นบริหารให้ ทำให้ธุรกิจนี้เกิดขึ้นจำนวนมากในช่วงที่ผ่านมา และเกิดการจ้างออกแบบ ก่อสร้าง การสร้างแบรนด์ การทำการตลาดตามมา ซึ่งในปี 58 เชื่อว่าธุรกิจคอมมูนิตีมอลล์จะยังเติบโตได้อีก

ดร.กุลเดช กล่าวต่อว่า ปีนี้ตลาดในต่างจังหวัดยังมีโอกาสเติบโตได้อีกมากจากการขยายตัวของเมือง และไลฟ์สไตล์ของคนต่างจังหวัดที่เปลี่ยนไป ให้ความสำคัญต่อการออกแบบ ตกแต่งมากขึ้น ปีที่ผ่านมา บริษัทได้รับงานออกแบบตกแต่งในจังหวัดขอนแก่น บุรีรัมย์ ร้อยเอ็ด กาญจนบุรี และพิษณุโลก เป็นต้น ซึ่งปีนี้บริษัทตั้งเป้ารายได้จากต่างจังหวัดเพิ่มเป็น 30%

“อสังหาฯ เป็นธุรกิจที่มีความไม่แน่นอนสูง มีรอบวงจรธุรกิจ 5-7 ปี เวลาโตโต แบบกระโดด เวลาลง ลงแรง ดังนั้น การดำเนินธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับอสังหาฯ จะต้องกระจายความเสี่ยงด้วยการทำธุรกิจต้นน้ำ ทำให้ครอบคลุม ปีที่ผ่านมาที่อยู่อาศัยชะลอ แต่สำหรับการออกแบบก่อสร้างคอมมูนิตีมอลล์เติบโตมาก รวมถึงตลาดต่างจังหวัด ทำให้ยอดขายเราโต รวมถึงแนวโน้มเจ้าของธุรกิจหันมาให้ความสำคัญต่อการสร้างแบรนด์ มีภาพลักษณ์ที่ดี มีการทำตลาดที่ชัดเจน อีกทั้งการชะลอตัวของภาคอสังหาฯ ทำให้หลายโครงการประสบความล้มเหลว ยอดขายไม่ได้ตามเป้า หันมาให้บริษัทเป็นที่ปรึกษาด้านการตลาด แก้ไขปัญหาโครงการ เพื่อนำกลับมาทำตลาดใหม่ให้โครงการสามารถเดินต่อไปได้ ปัจจัยเหล่านี้ล้วนทำให้ธุรกิจของบริษัทเติบโต” ดร.กุลเดช กล่าว

ดร.กุลเดช กล่าวอีกว่า ภาย หลังจากเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) ในปลายปี 2558 นี้ สถาปนิกไทยจะได้รับความสนใจจากกลุ่มประเทศสมาชิกเป็นอย่างมาก เพราะในด้านการออกแบบสถาปนิกไทยถือว่ามีฝีมือที่สุด แต่ในด้านการบริหาร การเจรจานั้นไทยยังด้อยกว่าสิงคโปร์ ซึ่งคาดว่าหลังจากเปิด AEC สิงคโปร์ จะเข้ามาตั้งสาขาของบริษัทรับงานออกแบบในประเทศไทยมากขึ้น โดยใช้สถาปนิกไทยบริหารงาน

สำหรับเทรนด์การออกแบบในปี 2558 จะเป็นในรูปแบบของการสร้างที่อยู่อาศัยเพื่อผู้สูงอายุมากขึ้น และการออกแบบในลักษณะของ Do It Yourself : DIY การสร้างสรรค์ ประดิษฐ์สิ่งของเครื่องใช้ หรือการทำสิ่งใดๆ ด้วยตัวเอง และสามารถใช้งานได้จริง จะไม่มีรูปแบบที่ตายตัว เพราะเป็นงานที่เกิดจากความคิดสร้างสรรค์ และการลงมือทำด้วยตนเองของเจ้าของงาน

“การออกแบบไม่ใช่เศษกระดาษเหมือน สมัยก่อน ปัจจุบันคนรุ่นใหม่จะให้ความสำคัญต่อการออกแบบที่อยู่อาศัย อาคารสำนักงาน หรือรอมมูนิตีมอลล์ ส่วนตลาดงานออกแบบ และก่อสร้างในปี 2558 เชื่อว่าจะมีการแข่งขันที่รุนแรงมากขึ้น แต่ละบริษัทจะพยายามหาจุดขายของตัวเองให้มากขึ้น และจะมีการดัมพ์ราคากันมาก แต่คุณภาพงานต้องดีด้วย” ดร.กุลเดช กล่าว

Manager Online